ราคาทองช่วงเช้านี้วิ่งขึ้นต่อจากเมื่อวาน ทดสอบระดับสูงสุดที่ 1,411.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป็นการปรับตัวขึ้น 5 วันทําการติดต่อกันแล้วกว่า 5% โดยมีปัจจัยบวกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ยในปีนี้ และความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-อิหร่านที่เข้มข้นมากขึ้น นับตั้งแต่เหตุการณ์โจมตีเรือบรรทุกนํ้ามันในอ่าวโอมาน ซึ่งสหรัฐกล่าวหาว่าอิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และสหรัฐฯยังส่งทหารเพิ่มอีก 1,000 นายเข้าไปในตะวันออกกลาง โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันภัยคุกคามจากอิหร่าน และเกิดเหตุโดรนสอดแนมของสหรัฐฯถูกสอยตกโดยอิหร่าน ทําให้ปธน.ทรัมป์ ออกมาขู่ผ่านทวิตเตอร์เมื่อคืนว่า “อิหร่านได้ทําความผิดพลาดครั้งใหญ่” ทําให้หลายฝ่ายกังวลว่าสหรัฐและอิหร่านอาจปะทะกันทางการทหาร ขณะที่นางแนนซีเพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เรียกร้องให้ลดความตึงเครียดดังกล่าว โดยใช้กลยุทธ์ ไม่ใช่การกระทําทีขาดสติ จึงแนะนําติดตามประเด็นนี้ต่อไป เพราะราคาทองคําอาจผันผวนไปตามกระแสข่าวซึงมีความไม่แน่นอนสูง สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผย PMI ภาคการผลิตและบริการของเยอรมนี ยุโรป และสหรัฐฯ ปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า หากราคาทองยังไม่สามารถยืนเหนือบริเวณแนวต้าน 1,416 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีผลให้ราคาปรับตัวลงเพื่อสร้ างฐานราคาหรือสะสมกําลัง โดยประเมินแนวรับแรกบริเวณ 1,393 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นหากการดีดตัวกลับไม่มาก หรือไม่สามารถกลับไปยืนเหนือแนวต้านได้ มีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมา โดยมีแนวรับถัดไปในโซน 1,381 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนํากลยุทธ์การลงทุนพิจารณาบริเวณ 1,393-1,381 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้มั่นคงอาจเสี่ยงซื้อเก็งกําไรระยะสั้น แต่หากหลุดลงมาให้ชะลอการเข้าซื้อออกไป ขณะที่หากราคาทองไม่สามารถขึ้นมายืนเหนือแนวต้าน 1,416 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนําให้พยายามลดการถือทองคําลงเพื่อควบคุมความเสี่ยง
ที่มา ylgbullion.co.th