ราคาทองคำช่วงเช้าปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี แตะระดับ 3% อีกครั้ง หลังความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อทางการจีนประกาศว่าจีนเตรียมที่จะยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรของสหรัฐซึ่งรวมถึงถั่วเหลืองขานรับท่าทีที่อ่อนลงของสหรัฐหลังปธน.ทรัมป์ประกาศว่าจะหาทางช่วยเหลือบริษัท ZTE ของจีนให้กลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง ขณะที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนและคณะเจ้าหน้าที่ของจีนจะมีการเจรจาการค้าระดับทวิภาคีกับเจ้าหน้าที่สหรัฐหลายราย ซึ่งรวมถึงนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันเสาร์นี้ ปัจจัยดังกล่าวถูกใช้เป็นปัจจัยชี้นำดอลลาร์และราคาทองคำเพิ่มเติม
สำหรับวันนี้แนะนำติดตามการเปิดเผยยอดค้าปลีกและดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม(Empire State Index)ของสหรัฐ หากตัวเลขดังกล่าวออกมาดีหรือดีกว่าที่คาดการณ์ จะเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ จึงมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้กลับลงมาตั้งฐานราคาด้านล่างอีกครั้ง
เบื้องต้นประเมินว่าราคาทองยังคงเคลื่อนไหวระหว่าง 1,337-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนราคาระดับ 1,306-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จึงจะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง แนะนำเน้นการลงทุนระยะสั้นโดยซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,306-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสำหรับนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่แนะนำทยอยขายทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,326-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป ที่มา ylgbullion
รูปภาพจาก sanook.com